ภาระกิจแรกของผมที่มาถึงบริเวรศาลพระพรหม คือ จุดเทียนให้น้องๆกลุ่มนี้ครับ
นี่คือผ้าที่ผม ยรรยง ลูกชาวดิน ใช้ร่วมผูกกับพี่น้องในวันที่ 19 ก.ย.2553ครับ เป็นบริเวณหน้าเวทีที่ผมเคยดูแลพี่น้องในทุกวันของการชุมนุมจนถึงวินาทีสุดท้ายที่คุณณัฐวุฒิ และ คุณจตุพร ประกาศเลิกการชุมชุม ก่อนจะพาพี่น้องไปหลบอยู่ในวัดปทุมวนาราม สถานที่เกิดเหตุการฆ่าหมู่ อาสาพยาบาล แม้ผมจะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
แต่ก็เหมือนตายแล้วเกิดใหม่
หลังจากผูกผ้าแล้ว ก็ยืนตั้งจิตถึงพี่น้องผู้จากไป แล้วก็นึกถึงเพื่อนๆ การ์ด และ อาสาพยาบาล ที่ร่วมทีมก็ได้เจอทักทายหลายคน สิ่งที่ทำได้คือสบตาโอบกอดกัน แล้วจับมือมั่นก่อนจากลา ...........เพื่อจะรอวันมาพบกันใหม่...
ภาพของเด็กน้อยคนหนึ่งที่คอยเดินจุดเทียนทุกเล่มที่ดับ ให้สว่างอยู่ตลอดเวลา
(แต่ นสพ.ผู้จัดการลงข่าวบอกว่าจุดไม่ติด ....! เกี่ยวไหมนี่ 55 ...?)
นี่คนคุ้นเคยไม่ต้องสงสัย นั่งเหมือนที่เคยนั่งอย่างไม่ลังเลพอเดินเบียดเสียดพ่อแม่พี่น้องร่วมอุดมการณ์มาถึงตรงป้ายราชประสงค์ ได้เห็นกับน้องผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ผมต้องบอกกับตัวเองว่า เราเป็นหนี้บุญคุณพ่อของเธออยู่นะ
เดินมาถึงมุมนี้ยิ่งสะเทือนใจกับภาพที่ได้เห็น
ฟ้าเอ๋ยฟ้า กล้าสบตาเด็กน้อยคนนี้ไหม คำถามคงไม่มากมาย
"ฆ่าพ่อหนูทำไม ใครสั่งฆ่าพ่อหนู"
นี่คือประเทศ ในปี พ.ศ.2553 ความเป็นธรรมยังมีอยู่ไหม
สิ่งที่เห็นมีแต่คนเสื้อแดงเท่านั้น มีแต่ไพร่เท่านั้น ที่เข้าใจกันและกัน
มันเจ็บปวดมากครับกับภาพที่ได้เห็น
มากมายหลายคำถาม แต่ รัฐบาลเผด็จการทหาร ทาสอำมาตย์
ตอบไม่เคยตรงคำถามสักที
อยากรู้ว่านักข่าวจะรายงานว่า คนเสื้อแดง มากี่หลายพันครับ ผมเองก็ไม่รู้แต่ที่เดินจากสี่แยก มาทางประตูน้ำ ใช้เวลานานมาก ไม่ได้เดินไปแยกอื่นเลย
ที่นี่มีคนตาย
ช่วงนี้หลังจากเคารพธงชาติแล้ว แต่คนยังเต็มถนน จากแยกราชประสงค์ ถึงแยกประตูน้ำ
ความพร้อมที่ยังเหมือนเดิมสำหรับคนเสื้อแดง
บริเวณหน้าบิ๊กซีตรงนี้มีทั้งพึ่งมาและกำลังจะกลับครับ
เจตนายังเหมือนเดิม (จากภาพนี้นึกถึงเพลงพี่กี้ส์ครับ ผมคิดเอาเอง)
พอมาเจอตำรวจผมหิวข้าวขึ้นมาทันที จากนั้นก็เป็นจับกลุ่มการเสวนากับพี่น้องที่มา โดยที่ผมไม่รู้จักใครเลยในกลุ่ม จนถึงหนึ่งทุ่ม ก็ยกมือไหว้ลากันตามความอาวุโส
ยรรยง ลูกชาวดิน (ถ่ายภาพ)
19/ก.ย./2553